Translate

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ดอกจันกะพ้อ


ดอกจันกะพ้อ


 
 
 
 
ชื่อวิทยาศาสตร์       Vatica diospyroides   Symington
ตระกูล                   DIPTEROCARPACEAE
ลักษณะทั่วไป
จันทน์กะพ้อเป็นพันธุ์ไม้ในวงศ์ Dipterocarpaceae พวกเดียวกับยางนาและพะยอม ทางภาคใต้เรียก จันทน์พ้อ และที่จังหวัดพังงาเรียก เขี้ยวงูเขา จันทน์กะพ้อเป็นไม้ต้นขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง โตช้า ชอบขึ้นในที่ดินร่วนชื้นและร่มปะปนกันไม้ต้นชนิดอื่นในป่าดิบชื้น ต้นค่อนข้างตรง เปลือกเกลี้ยง เรือนยอดเป็นพุ่มรีหรือกว้างใบเป็นใบเดี่ยว รูปรีค่อนข้างยาว ขนาดยาว ๗-๙ซม. กว้าง ๒-๓ ซม. สีเขียวเข้ม เรียงตัวแบบเวียนไปตามกิ่งห่างๆ กัน ดอกออกตามกิ่งเป็นช่อเล็กๆ ทยอยบานครั้งละ ๑-๒ ดอก แต่มักจะมีช่อหลายช่อเป็นกระจุกและเรียงเป็นระยะๆ ตามกิ่งดอกขนาด ๑.๒-๑.๕ ซม. กลีบเลี้ยงมีขนสีน้ำตาลกลีบดอกเรียงเวียนซ้อนเกยกันเล็กน้อย ด้านในสีขาวนวลหรืออมชมพู ด้านนอกมีแถบแคบๆ มีขนละเอียดสีน้ำตาลอมแดง กลิ่นหอมแรง ออกดอกในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ปัจจุบันพบเห็นได้ค่อนข้างน้อย ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดปลูกเลี้ยงค่อนข้างยาก ถ้าแดดจัดหรือลมแรงใบจะไหม้ ปัจจุบันพบน้อยลงมาก
ใบ : เป็นใบเดี่ยว รูปรีแกมขอบขนาน หรือใบหอก สีเขียวเข้มเป็นมัน ใบอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง
ดอก : ออกเป็นช่อสั้นๆยาว 10 -30 เซนติเมตร ตามซอกใบและปลายกิ่ง มี 5 กลีบ เมื่อดอกย่อยบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร สีขาวหรือเหลืองอ่อน ด้านนอกของกลีบมีขนนุ่มสีน้ำตาล ดอกทยอยบานนาน 1- 2 สัปดาห์ ดอกบานเพียงวันเดียวแล้วร่วงหล่นลงโคนต้น มีสีขาวเต็มพื้นและส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ
ผล : เป็นรูปเกือบกลม ขนาด 2.5-3 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบติดที่ขั้วผล ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีน้ำตาล แตกได้เป็น 3 เสี่ยง ภายในมี 1 เมล็ด
ฤดูออกดอก : พฤศจิกายน - มีนาคม กลิ่นหอมมากในตอนกลางคืน
สภาพปลูก : ชอบขึ้นอยู่ตามริมน้ำ บริเวณที่มีน้ำหลากหรือน้ำท่วมขัง ดินชุ่มชื้น แสงแดดจัด ชอบน้ำมาก ชอบอยู่กลางแจ้งที่มีความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง

ขอบคุณจาก www.chankapho.com/Article-showdetail-5857-8774-ดอกจันกะพ้อ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น